เกม “คาสิโน(CASINO)” | คาสิโนออนไลน์ อันดับ1 ของเอเชีย

รูเล็ต (Roulette)

รูเล็ตถือว่าเป็นเกมคาสิโนหนึ่งที่เล่นและเข้าใจง่ายที่สุด ซึ่งเป็นการเล่นในรูปแบขับเคลื่อนมากที่สุด รูปแบบแรกของรูเล็ตที่เรารู้จักในทุกวันนี้มีมาในช่วงศตวรรษที่ 18 ของฝรั่งเศส และเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กับความมากมายของตัวเลขและตัวเลือกที่เปิดให้ทำการวางเดิมพัน การเล่นสดกับรูเล็ตที่ Vwin ในขณะนี้แสดงให้เห็นถึงจุดสุดยอดของเกมคาสิโนแบบคลาสสิค ด้วยความตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ และความซับซ้อนของมันที่ทำให้ไม่เพียงแค่น่าสนใจแต่สามารถเป็นกลยุทธ์ได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้ รูเล็ตได้เติบโตกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ต้องการสำหรับผู้เล่นออนไลน์และเป็นผู้นำทางการตลาดสำหรับคาสิโนสดโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำพาคุณพบกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับรูเล็ตออนไลน์!

วิธีการเล่น

วงล้อหมุนของรูเล็ตจะมีพ็อกเก็ต จำนวนและการจัดตำแหน่งที่แตกต่างกันอยู่ไม่กี่สายพันธุ์ ตัวเลขทั้งหมดจะสลับกันระหว่างสีดำและสีแดง จะมีเพียงเลข 0 และ 00 เท่านั้นที่เป็นสีเขียว วงล้อจะหมุนอยู่ภายในโต๊ะและทำการวางเดิมพันในพื้นที่ที่กำหนด
ผู้เล่นทั้งหมดที่วางเดิมพันจะต้องแข่งกับเฮ้าส์ตามตัวเลข กลุ่มของตัวเลขหรือสีที่พวกเขาคิดว่าจะชนะ โต๊ะรูเล็ตจะถูกกำกับดูแลโดยดีลเลอร์ (บางครั้งจะเรียกแบบดั้งเดิมว่า "เจ้ามือ") ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการหมุนลูกบอลและจัดการการเดิมพัน ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้จนกระทั่งดีลเลอร์แจ้ง "no more bets" การเริ่มเกม ดีลเลอร์จะหมูวงล้อและใช้ลูกบอลกลิ้งตาม เหนือหมายเลขของสล็อต ลูกบอลจะถูกทิ้งให้ช้าลงและตกลงบนตัวเลขในช่องใดช่องหนึ่ง หมายเลขที่ชนะจะประกาศ และดีลเลอร์ก็จะจ่ายผู้ชนะและเก็บรวบเงินเดิมพันทั้งหมดที่การวางเดิมพันเสีย และการเดิมพันจะเริ่มใหม่ทันทีเมื่อมีการเคลียร์บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

กฎของยูโรเปี้ยนรูเล็ต (European Roulette Rules)

ยูโรเปี้ยนรูเล็ตเป็นเกมที่เก่าแก่ที่สุดและอาจจะรู้จักกันดีที่สุดของเวอร์ชันเกมนี้ โดยวงล้อยูโรเปี้ยนรูเล็ตจะประกอบด้วย 37 หมายเลข โดยมีตั้งแต่หมายเลข 1 ถึง 36 สลับกันระหว่างสีแดงและสีดำ กับทั้งหมด 37 พ็อกเก็ต รวมหมายเลข 0 ที่เป็นสีเขียว การจัดตำแหน่งของพ็อกเก็ตของวงล้อดูคล้ายจะเป็นแบบการสุ่ม แต่จริงๆ จะถูกจัดอยู่ในลำดับทางคณิตศาสตร์ ดังนั้น โอกาสที่จะชนะในแต่ละหมายเลขนั้นมีเท่ากัน การวางเดิมพันนั้นต้องดำเนินการในระยะเวลาที่กำหนด หากระบบแจ้ง "no more bets" การวางเดิมพันหลังจากนี้จะไม่สามารถใช้ได้

กฎของอเมริกันรูเล็ต (American Roulette Rules)

จะมีความแตกต่างจาก ยูโรเปี้ยน เคาน์เตอร์พาร์ท อเมริกันรูเล็ตประกอบด้วยวงล้อ 38 หมายเลขสล็อต: คือหมายเลข 1 ถึง 36 เลข 0 และเลข 00 ลักษณะของเกมทั้งหมดจะมีความคล้ายคลึงกับยูโรเปี้ยนรูเล็ตและผู้เล่นสามารถวางเดิมพันในหมายเลขที่จะชนะ เช่นเดียวกับสีหรือกลุ่มของหมายเลขที่บอลจะตกในพื้นที่ และไม่กี่นาทีของการเดิมพันสำหรับความไปได้

แบล็คแจ๊ค (Blackjack)

แบล็คแจ็ค หรือที่รู้จักกันดีคือ 21 เป็นเกมคาสิโนที่เล่นกันอย่างกว้างขวางในโลก แบล็คแจ็คคือการเทียบไพ่ระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ หมายถึงผู้เล่นจะต้องแข่งกับเจ้ามือแต่จะไม่ได้แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นๆ แบล็คแจ็คเป็นการเล่นด้วยไพ่หนึ่งสำรับหรือมากกว่าของไพ่ 52 ใบ การนับแต้มของแต่ละเกมคือ 21 แต้มหรือใกล้เคียง 21 แต้มโดยจะต้องมากกว่าเจ้ามือแต่ไม่เกิน 21 แต้ม

ประวัติแบล็คแจ็ค

ที่มาของคำว่า "แบล็คแจ็ค" คือ "21" ยังไม่ทราบประวัติที่มาของเกมอย่างแน่ชัด เมื่อ "21" ถูกนำเข้าในสหรัฐอเมริกา เจ้าของเกมมิ่งเฮ้าส์ได้นำเสนอโบนัสการจ่ายออกเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นสนใจ ซึ่งโบนัสที่ให้นั้นจะมีการจ่ายออกให้ถึง 10 ต่อ 1 หากในมือของผู้เล่นนั้นประกอบด้วย เอชโพดำและแจ็คสีดำ (ไม่ว่าจะเป็นแจ็คดอกจิก (Jack Club) หรือ แจ็คโพดำ (Jack spade)) มือนั้นจะถือว่า "แบล็คแจ็ค" และจะใช้เป็นชื่อเกม ถึงแม้ว่าการจ่าย 10 ต่อ 1 ก็จะสามารถถอนเงินได้เร็ว ในเกมที่ทันสมัยมากขึ้น แบล็คแจ็ค หมายถึง ในมือใดๆ ก็ตามที่มีเอชรวมกันกับสิบหรือหน้าไพ่รูปภาพ โดยไม่คำนึงถึงชุดหรือสีของไพ่

วิธีการเล่นแบล็คแจ็ค

วัตถุประสงค์ของผู้เล่นคือการที่จะชนะโดยการสร้างผลรวมของไพ่ที่จะเปิดให้สูงกว่ามือดีลเลอร์ (เจ้ามือ) แต่ไม่เกิน 21 (หากสูงกว่า 21 จะเรียกว่า "บัส" หรือ "เบรกคิง") เมื่อถึงคราวที่ผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะ "ฮิต" (เรียกไพ่เพิ่ม) "สแตน" (ไม่เรียกไพ่เพิ่ม) "ดับเบิ้ล" (ดับเบิ้ลวางเดิมพันและแยกไพ่เดี่ยวและจบ) "สปริท" (ถ้าไพ่สองใบมีค่าเหมือนกัน สามารถแยกเป็นสองมือ) หรือ "ยอมแพ้" (จะให้สูงถึงครึ่งของการเดิมพันและให้ออกจากการเล่นในเกม)
หมายเลขไพ่จะรับตามค่าปกติ โดย Jack, queen และ king (รู้จักกันดีในนาม "ไพ่รูปภาพ") จะนับเป็น 10 ในส่วนของเอช (A) จะมีค่าคือ 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับการเลือกของผู้เล่น ถ้าในมือนั้นมีค่ามากกว่า 21 แต้ม หมายถึง "บัส" และการวางเดิมพันทั้งหมดจะถูกริบเงินทันที หลังจากที่ผู้เล่นทุกคนได้เสร็จสิ้นการเปิดไพ่ของพวกเขาแล้ว เจ้ามือจะทำการแก้ไขเพื่อให้ได้ผลเสมอจนกระทั่งบัส หรือจะถือว่าใช้ได้หากค่าคือ 17 หรือมากกว่า (ในเจ้ามือผลรวมของ 17 รวมถึง A หรือ "ซอฟท์ 17" จะต้องดึงไปในบางเกมและจะต้องสแตนในมืออื่นๆ) ดีลเลอร์ไม่สามารถที่จะ ดับเบิ้ล สปริท หรือ ยอมแพ้ ถ้าเจ้ามือบัส ผู้เล่นที่เหลือทั้งหมดจะถือว่าชนะ ถ้าดีลเลอร์ไม่บัส แต่ละการเดิมพันที่เหลือจะชนะถ้ามือของเขามีค่ามากกว่า และจะแพ้หากมีค่าน้อยกว่า ในกรณีที่มีแต้มเท่ากัน รู้จักกันดี "พุช" หรือ "สแตนออฟ" การวางเดิมพันจะคืนเงินให้ตามปกติ อย่างไรแล้ว แบล็คแจ็คจะชนะมือใดๆ ซึ่งไม่ได้เป็นแบล็คแจ็คถึงแม้ว่าจะมีค่าเท่ากับ 21
หากผล "แบล็คแจ็ค" VS "แบล็คแจ็ค" เท่ากัน ชนะจะจ่ายออก 1:1 หรือเท่ากับยอดเงินวางเดิมพัน ยกเว้นสำหรับการชนะแบล็คแจ็ค ซึ่งจะได้รับเงินตามแบบดั้งเดิมที่ 3:2 (หมายถึงว่าผู้เล่นจะได้รับ 3 ดอลลาร์ สำหรับทุกๆ 2 การเดิมพัน) หรือหนึ่งและครึ่งเวลาเดิมพัน
เกมแบล็คแจ็คเกือบทั้งหมดจะเปิดให้มีการวางเดิมพันแบบประกัน (insurance) ซึ่งอาจจะเล่นเมื่อเจ้ามือมีไพ่ในมือคือเอช อย่างใดอย่างหนึ่งในอนาคตด้านการเดิมพันที่จะจัดให้

คำอธิบายคำศัพท์

Blackjack: แบล็คแจ๊ค หรือปกติคือแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 21 แต้ม แบล็คแจ๊คคือไพ่ที่ประกอบไปด้วย เอช (A) และไพ่ที่มีค่า 10 จากการแจกสองครั้งแรกรวมกัน โดยการจ่ายของแบล็คแจ๊คให้ผู้เล่นที่ราคาต่อรอง 3 ต่อ 2

21:ผลรวมของไพ่มากกว่า 2 ใบรวมกันได้ 21 แต้ม

บัสต์ (Bust):แต้มในมือรวมมากกว่า 21 แต้ม

พุช (Push):ผู้เล่นและผู้แจกไพ่มีแต้มรวมเท่ากัน

ฮาร์ด แฮนด์ (Hard Hand):ในมือนั้นไม่มีเอช หรือเอชจะมีค่าเป็น 1 จะเรียกเป็นฮาร์ดในการที่จะให้มีค่าเป็นหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างจาก "ซอฟ แฮนด์" (คุณสามารถให้เอชเป็น 1 หรือ 11 ตามความเหมาะสม)

ซอฟท์ แฮนด์ (Soft Hand):ในมือนั้นที่มีเอช จะนับเป็น 11 เรียกว่า "ซอฟ แฮนด์"

ทางเลือกของผู้เล่น

การเดิมพันแอนเต้ (Ante):: แรกเริ่มก่อนที่จะแจกไพ่เดิมพัน

แพร์ (Pairs) ในการเดิมพัน "แพร์ (คู่)" ก่อนที่จะมีการแจกไพ่ ไพ่ที่ได้รับการแจก 2 ใบแรกจะต้องเหมือนกัน โดยจะจ่ายออกในราคา 11 ต่อ 1

ฮิต (Hit): การเรียกไพ่เพิ่ม.

สแตนด์ (Stand): ไม่เรียกไพ่เพิ่ม

การประกัน (Insurance): การเดิมพันเพิ่มเงินอีกครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพันในฝั่งเจ้ามือที่มี 21 ปกติ (แบล็คแจ็ค) จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเจ้ามือเปิดไพ่เป็นเอช (A) ถ้าเจ้ามือมีไพ่ที่คว่ำไว้คือ 10 แต้มและไพ่นั้นเป็นแบล็คแจ็ค หากเจ้ามือไม่เป็นแบล็คแจ็คคุณจะเสียเงินที่ซื้อประกันไว้ การประกันจะจะจ่ายออกที่ 2 ต่อ 1

สปลิต (Split): จะใช้ได้เมื่อไพ่ใบแรกมีค่าเท่ากัน ซึ่งคุณสามารถขอแยกไพ่เป็นสองมือโดยต้องวางเดิมพันเพิ่มเท่ากับยอดวางเดิมพันที่วางเดิมพันตั้งแต่แรก และจะไม่อนุญาตให้แยกไพ่เพิ่มได้อีก หากคุณมีไพ่มีค่าเป็น 10 + A รวมกันในมือที่คุณแยกออกมา จะไม่ถือว่าเป็นแบล็คแจ็ค จะถือเป็นไพ่ 21 แต้มปกติ หลังจากที่แยกเป็นเอช 2 ใบ จะไม่อนุญาตให้วางเดิมพัน "ดับเบิ้ล ดาวน์" และสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้เพียง 1 ใบเท่านั้นของแต่ละมือที่แยก

ดับเบิ้ลดาวน์ (Double Down): ถ้าผลรวมของไพ่สองใบแรกเป็นฮาร์ดคือ 9, 10 หรือ 11 (ฮาร์ดแฮนด์หมายถึงไม่มีเอชใน 2 ใบแรก) ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้แต่จะเรียกไพ่เพิ่มได้เพียง 1 ใบเท่านั้น

ยอมแพ้ (Surrender): ตัวเลือกนี้จะไม่มีทุกคาสิโน ผู้เล่นจะตัดสินใจยอมแพ้ หากเขาเข้ามีการแจ้งไว้ในช่วงต้นของการเปิดไพของเขา (หลังจากที่เขาได้รับการแจกไพ่ 2 ใบแรกและเขาไม่ได้ประกาศแจ้งใดๆ) ผู้เล่นสามารถเรียกเงินเดิมพันคืนได้ครึ่งหนึ่งของยอดเงินเดิมพัน

บาคาร่า (Baccarat)

ในขณะที่มันคือความสำเร็จที่จะบอกว่าบาคาร่าคือเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ต้นกำหนดที่แท้จริงนั้นยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างแน่ชัด บางก็ว่ามาจากอิตาลี ในขณะที่บางคนก็ว่าต้นกำหนดมาจากฝรั่งเศส สิ่งที่เราจะรู้ได้อย่างชัดเจนก็คือมี 3 ความแตกต่างที่นิยมของเกมที่มีวันนี้: ปุนโต บังโก (Punto Banco) หรือเรียกว่า "North American Baccarat" เชอแมงเดอเฟร์ (ChemindeFer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) (หรือ "à deux tableaux") "ปุนโต บังโก" เป็นการเล่นตามกติกาเกมไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ทักษะหรือกลยุทธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้เล่นแต่ละท่านจะสามารถเปิดดูไพ่ที่ได้รับแจกจากดีลเลอร์และผู้เล่นไม่สามารถเรียกไพ่หรืออยู่แต้มได้ตามใจชอบ

ในบาคาร่า เชอแมงเดอเฟร์ (Chemin de Fer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) โดยความแตกต่าง ทั้งสองแบบนี้เพย์เยอร์สามารถเลือกได้ ซึ่งใช้ทักษะในการเล่นเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการ

บาคาร่าเป็นเกมการเล่นไพ่เพื่อเปรียบเทียบระหว่างมือทั้งสองข้าง คือ "เพย์เยอร์" และ "แบงค์เกอร์"

ซึ่งมีโอกาสความเป็นไปได้ของผลที่ออกคือ "เพย์เยอร์" (ผู้เล่นมีแต้มสูงกว่า) "แบงค์เกอร์" และ "ไท"

ผู้นำทางด้านการตลาดคาสิโนสด VWIN เสนอให้คุณพบกับโอกาสที่สามารถเลือกเล่นได้ทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นของเกม

วิธีการเล่น

ในเกมบาคาร่า จะใช้ไพ่รวมทั้งหมด 8 สำรับ (461 ใบ) ของไพ่ที่ใช้ เลขบนไพ่ 2 ถึง 9 จะมีค่าตามไพ่ใบนั้นๆ และเอช (A) จะมีค่าเท่ากับ 1 ในขณะไพ่ที่เป็นรูปภาพ (Jacks, Queens และ Kings) และ 10 จะมีค่าเท่ากับ 0 ค่าที่แท้จริงของแต่ละมือเป็นค่ารวมของไพ่ทั้งหมด การคำนวณนี้สรุปตามค่าของไพ่ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ในมือนั้นถือไพ่ 4,Q,10 มีค่า 4 แต้ม (4+0+0=4) ในขณะมือที่ถือไพ่ A,9 มีค่า 0 แต้ม (1+9=0)

เริ่มต้นโดยผู้เล่นทั้งหมดทำการวางเดิมพันอย่างใดอย่างหนึ่งบน "เพย์เยอร์ (ผู้เล่น)" "แบงค์เกอร์ (เจ้ามือ)" หรือไท (เสมอ) ที่บางโต๊ะคุณอาจจะเดิมพันใน "เพย์เยอร์แพร์" และ "แบงค์เกอร์แพร์" ได้

ในทุกๆ รอบของเกม จะได้รับการแจกไพ่ 2 ใบ สำหรับเพย์เยอร์และแบงค์เกอร์ เมื่อใดก็ตามที่เพย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์มีแต้มรวมคือ 8 หรือ 9 จะไม่มีการแจกไพ่ใบที่ 3 สำหรับเพย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์

โดยแต้มของแต่ละมือจะนับผลรวมของไพ่โดยดูที่หลักสุดท้ายของเลขทางด้านขวามือ สำหรับตัวอย่าง หากถือไพ่ 2 ใบในมือคือ 8 และ 7 ดังนั้นผลรวมคือ 8+7= 15 แต้มในมือนั้นคือ 5 ซึ่งแต้มของไพ่นั้นจะมีตั้งแต่ 0 ถึง 9 และมันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกินจากนี้

Third-card Rules

ไพ่ใบที่ 3 อาจจะได้รับการแจกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้แล่นหรือผู้แจกไพ่ตากฎระเบียบต่อไปนี้

• ฝ่ายใดก็ตามที่ได้แต้มรวม 8 หรือ 9 เราจะเรียกว่า “ชนะป๊อก หรือ natural win” การแข่งขันรอบนั้นจะสิ้นสุดลง และไม่มีการแจกไพ่ใบที่ 3
• ถ้าแต้มของไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเพลย์เยอร์ รวมกันได้เท่ากับ 6 หรือ 7 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม (เรียกว่า อยู่ หรือ stand) ในขณะที่ของฝั่งแบงค์เกอร์ หากไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งแบงค์เกอร์รวมกันได้เท่ากับ 3 4 หรือ 5 จะต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 แต่หากแต้มรวมเท่ากับ 6 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
• ในกรณีที่ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเพลย์เยอร์ และ แบงค์เกอร์ แต้มของแต่ละฝั่งรวมกันได้ 0-7 ยังสามารถจะเรียกไพ่ใบที่3ได้อยู่ ตามกฎของไพ่ใบที่ 3 โดยฝั่งเพลย์เยอร์จะจั่วไพ่ก่อน

กฎไพ่ใบที่ 3

อัตราการจ่ายดังนี้:

ซุปเปอร์ 6 บาคาร่า (Super 6 Baccarat)

ซุปเปอร์ 6 บาคาร่า นอกจากนี้บางครั้งเรียกว่า "พันโต 2000" เป็นรูปบาคาร่าที่มีการจ่ายเงินรางวัลที่แตกต่างกันเล็กน้อยกับบาคาร่าดั้งเดิม สำหรับบาคาร่าปกติ คุณจะเริ่มเกมโดยการวางชิปในตำแหน่งของแบงค์เกอร์ (เจ้ามือ) เพย์เยอร์ (ผู้เล่น) หรือไท (เสมอ) โดยผู้แจกไพ่จะทำการแจกให้แบงเกอร์และเพย์เยอร์ตามปกติของไพ่ 3 ใบ

คุณชนะ หากคุณวางเดิมพันผลออก แบงเกอร์ เพย์เยอร์ หรือไท การจ่ายออกเพย์เยอร์ (1:1) และไท (8:1) เหมือนการวางเดิมพันบาคาร่าปกติแต่จะแตกต่างหากแบงค์เกอร์ชนะ แทนที่จะจ่ายออก 0.95:1 ในซุปเปอร์ 6 บาคาร่าแบงค์เกอร์ชนะจ่าย 1:1 ยกเว้นแบงค์เกอร์ชนะด้วยแต้ม 6 ในกรณีนี้จะจ่ายเงินครึ่งหนึ่งคือ 0.5:1

นอกจากนี้มีการนำเสนอการเดิมพันสำหรับการประกันในกรณีที่แบงค์เกอร์ชนะ 6 แต้ม ถ้าคุณวางเดิมพันที่ซุปเปอร์ 6 คุณกำลังวางเดิมพันทางด้าน Banker จะชนะ 6 แต้ม และถ้าหากประสบความสำเร็จการวางเดิมพันนี้จะจ่ายออก 12:1

การเดิมพันบาคาร่าแบบพาร์เลย์

ประเภทการเดิมพันเฉพาะบาคาร่าซึ่งเชื่อมโยงกับรอบเกมเดิมพัน 2-5 รายการติดต่อกัน ภายในรอบการแจกของเครื่องใส่ไพ่เดียวกัน โดยแต่ละรอบเกมเดิมพัน ผู้เล่นสามารถเดิมพันจาก “เพลย์เยอร์” “แบงค์เกอร์” หรือ “เสมอ” ผลชนะจากรอบก่อนหน้าจะสามารถนำมานับรวมกับรอบถัดไปได้ จนกว่าการเดิมพันพาร์เลย์นี้จะมีผลชนะ แพ้ หรือจบรอบการแจกของเครื่องใส่ไพ่ดังกล่าว

หากการเลือกเดิมพันมีทั้งแบงค์เกอร์และเพลย์เยอร์และผลเดิมพันคือ เสมอ ผลชนะล่าสุดที่ได้รับมา จะสามารถนำไปรวมกับรอบต่อไปได้ หากการเลือกเดิมพัน คือ เสมอ และผลออกเพลย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์ การเดิมพันพาเลย์นั้นจะถือว่าเสียเดิมพัน

การจ่ายออกจะดำเนินการจ่ายออกหลังจากรอบสุดท้ายของการชนะเดิมพันพาเลย์สิ้นสุด

หากการเลือกเดิมพันในรอบเกมใดๆ มีผลเป็นแพ้ การเดิมพันพาเลย์นั้นๆจะถือว่าเสียเดิมพันทันที

ผลชนะที่ได้รับขณะที่เดิมพันพาเลย์ยังดำเนินอยู่นั้น จะยังไม่สามารถถอนได้

ในกรณีที่เกมถูกยกเลิกหรือเป็นโมฆะเมื่อถึงรอบสุดท้ายของเครื่องใส่ไพ่นั้นๆหรือเหตุการณ์อื่นใดที่นำไปสู่การเปลี่ยนเครื่องใส่ไพ่นั้นใหม่ การเดิมพันพาร์เลย์นั้นๆจะถูกคิดเดิมพันทันทีโดยอ้างอิงจากผลชนะล่าสุด

การจ่ายออกสูงสุดของการเดิมพันพาเลย์ ทุนเดิมพันพาเลย์ทั้งหมดจะถูกจ่ายออกสูงสุดของจำนวนการจ่ายออกการเดิมพันพาเลย์

การขาดการเชื่อมต่อ ถ้าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทของท่านขัดข้อง หรือเบราเซอร์เกมของท่านถูกปิดในขณะที่เดิมพันพาเลย์ จะถือว่าท่านขาดการเชื่อมต่อจากคาสิโน ในกรณีนี้ เกมที่ท่านเดิมพันค้างไว้จะยังดำเนินต่อไป และระบบจะคิดเดิมพันและจ่ายออกผลชนะที่ได้ตามปกติ

อัตราการจ่ายเงินจะยึดตามการจ่ายออกของแบงเกอร์ เพลย์เยอร์ และ ไท ขึ้นอยู่กับโหมดเดิมพันที่เลือกระหว่าง

มีค่าคอมมิชชั่น กับ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

ผู้เล่นสามารถเลือกโหมดระหว่างแบบมีค่าคอมมิชชั่น หรือ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น สำหรับการเดิมพันพาร์เลย์ได้

ซิคโบ (Sicbo)

ซิคโบเป็นที่รู้จักกันคือ tai sai และ dai siu เป็นเกมคาสิโนที่เก่าแก่ และยังคงมีความนิยมกันมากในจีน ความหมายที่แท้จริงของซิคโบ คือ "ค่าของลูกเต่า" ในขณะที่ Tai Sai และ Dai Siu คือ "ใหญ่ หรือ เล็ก" ซึ่งในเกมจะใช้ลูกเต๋า 3 ลูกและตารางที่ความหลากหลายของตัวเลือกในการวางเดิมพันสำหรับการเขย่าลูกเต๋าเหล่านั้น

เกมนี้สามารถย้อนกลับไป 100 หรือราว 1,000 ปีที่ผ่านมา มีการบอกต่อกันมาของวิวัฒนาการโดยจุดเริ่มต้นจากการที่ผู้เล่นใช้ก้อนอิฐแทนการใช้ลูกเต๋า อิฐเหล่านี้ถูกวาดเป็นสัญลักษณ์ พร้อมใส่ลงในชามและโยนลงบนพื้อนเพื่อให้ได้ผลรวมของสัญลักษณ์เหล่านั้น ผู้เล่นที่ทายสัญลักษณ์ถูกจะได้รับรางวัล เมื่อเวลาผ่านไป จากก้อนอิฐเปลี่ยนแปลงมาเป็นลูกเต๋าและซิคโบขยายวงกว้างไปทั่วโลกและนำสู่อินเตอร์เน็ต และวันนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมที่สุด

วิธีการเล่น

สำหรับเกมนี้จะเล่นโดยใช้ลูกเต๋า 3 ลูก ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ภายในโดม ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องทายผลของเกมที่จะออกในเกมนั้น หลังจากที่มีการยืนยันการวางเดิมพันทั้งหมดแล้วเจ้ามือจะทำการเขย่าลูกเต๋า ในกรณีที่ผลไม่ชัดเจนกำกวม เช่น หน้าลูกเต๋าเอียงหรือทับซ้อนทำให้ผลของในเกมนั้นคลุมเครือ การวางเดิมพันจะเป็นโมฆะ และทำการเขย่าอีกครั้ง ในกรณีที่ผลออกตอง การวางเดิมพันทั้งหมดที่ (สูง/ต่ำ)และ (คู่/คี่)

รูปแบบการเดิมพัน

เล็ก (Small): ชนะโดยผลรวมของลูกเต๋า 3 ลูก ตั้งแต่ 4 ถึง 10 แต้ม ยกเว้นตอง (ออกเลขเดียวกันทั้ง 3 ลูก)

ใหญ่ (Big): ชนะโดยผลรวมของลูกเต๋า 3 ลูก ตั้งแต่ 11 ถึง 17 แต้ม ยกเว้นตอง (ออกเลขเดียวกันทั้ง 3 ลูก)

คี่ (Odd): ชนะจะต้องมีผลรวมเป็นคี่ ยกเว้นตองถือว่าเสีย (ออกเลขเดียวกัน 3 ลูก)

คู่ (Even): ชนะจะต้องมีผลรวมเป็นคู่ ยกเว้นตองถือว่าเสีย (ออกเลขเดียวกัน 3 ลูก)

ดับเบิ้ล (Double): การเดิมพันใดๆ ที่ผลออกเลขเดียวกัน (ตัวอย่างเช่น วาง 1 จากผลของลูกเต๋า 2 ลูก) ผู้เล่นจะชนะถ้าเลขที่เลือกออกมาเหมือนกันอย่างน้อย 2 ลูก

ตอง (Triple): เล่นอาจจะวางเดิมพันตัวเลขใดๆ ที่เจาะจง (ตัวอย่างเช่น วาง 1 จากผลของลูกเต๋า 3 ลูก) ผู้เล่นจะชนะถ้าลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกผลออกตรงกับหมายเลขที่เลือก

ตองใดๆ (Any Triple): ชนะเมื่อผลออกตอง ไม่ว่าจะออกเลขใดๆ ก็ตาม

ทุกๆตัวเลข (Any One Number): ระบุการเดิมพันบนตัวเลขใดๆตั้งแต่ 1 ถึง 6 ถ้าหมายเลขที่เลือกออก 1 หน้า จ่ายออก 1:1 ถ้าหมายเลขที่เลือกออก 2 หน้า จ่ายออก 2:1 ถ้าหมายเลขที่เลือกออก 3 หน้า จ่ายออก 3:1

ลูกเต๋า 2 ลูก (2 Dice Combination): เดิมพันบนลูกเต๋า 2 ลูกหมายเลข 1 ถึง 6 ออกตองจะต้องเป็น 2 ลูกที่เลือก

มังกร เสือ (Dragon Tiger)

ลักษณะเกม
ในเกมไพ่มังกร เสือ เป็นเกมไพ่ใบเดียว โดยวัดผลแพ้ชนะกันด้วยไพ่ของฝ่ายละใบ จะมีการแจกไพ่ทั้งสองฝั่ง – ฝั่งหนึ่งมังกรก้อนและอีกฝั่งเสือ ก่อนที่จะมีการแจกไพ่ ผู้เล่นจะต้องวางเดิมพันอาจจะวางเดิมพันที่มังกรหรือเสือ ทายว่าไพ่ฝั่งไหนจะมีแต้มสูงสุด ทั้งนี้ผู้เล่นยังสามารถเลือกวางเดิมพันเสมอ หากไพ่ทั้งสองฝั่งคือมังกรและเสือมีแต้มเท่ากัน

แต้มไพ่และอัตราการจ่าย
คิงจะมีแต้มสูงสุด ส่วนเอทจะมีแต้มน้อยสุด
วางฝั่งมังกร จ่าย 1 ต่อ 1 (หากเสมอจะหักค่าคอมมิชชั่น 50%)
วางฝั่งเสือ จ่าย 1 ต่อ 1 (หากเสมอจะหักค่าคอมมิชชั่น 50%)
วางเสมอจ่าย 1 ต่อ 8

บูล บูล (Bull Bull)

บูลบูล คือเกมไพ่ชนิดหนึ่ง ซึ่งถือกำเนิดมาจากภาคตะวันออกของประเทศจีน เช่นอดีตเมืองหลวงอย่างเซี้ยงไฮ้ มณฑลเจียงซี หรือมณฑลเจ้อเจียง เป็นต้น กติกาไม่ซับซ้อน เล่นง่ายจึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และเหมาะสำหรับมือใหม่

วิธีเดิมพัน

ในการเล่นจะใช้ไพ่มาตราฐานทั้ง 52 ใบ Player แต่ละคนจะได้รับการแจกไพ่ทั้งหมด 5 ใบต่อรอบการแข่งขัน หลังจากนั้น Playerจะเลือกไพ่ชุดแรก 3 ใบ ที่มีผลแต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว และไพ่ที่เหลือ 2 ใบจะถูกนำไปจับคู่กับชุดแรก(หากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบหลังมากกว่า 10 ต้องลบด้วย 10อีกครั้ง) สำหรับผลการแข่งขัน เมื่อรวบรวมแต้มทั้งหมดของ Player เสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลไปเปรียบเทียบกับแต้มของ Banker

ตัวเลือกเดิมพัน

"Player 1": เสมอ, ดับเบิ้ล
"Player 2": เสมอ, ดับเบิ้ล
"Player 3": เสมอ, ดับเบิ้ล

"Banker 1": เสมอ, ดับเบิ้ล (หมายเหตุ: เจ้ามือชนะผู้เล่นที่ 1)
"Banker 2": เสมอ, ดับเบิ้ล (หมายเหตุ: เจ้ามือชนะผู้เล่นที่ 2)
"Banker 3": เสมอ, ดับเบิ้ล (หมายเหตุ: เจ้ามือชนะผู้เล่นที่ 3)

* Equal=เสมอ, Double = คูณสอง

หมายเหตุ: การเลือกเดิมพันบนดับเบิ้ล ยอดเงินเดิมพันของท่านต้องมียอดเครดิตคงเหลือมากกว่ายอดเงินเดิมพัน 5 เท่า ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มที่ได้ที่คำชี้แจ้ง

1.ไพ่เสี่ยงทาย(First card): ดีลเลอร์จะเปิดไพ่เสี่ยงทาย เมื่อการเดิมพันรอบใหม่เริ่มขึ้นซึ่งค่าของไพ่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะเริ่มแจกไพ่ใบแรกที่ใคร หมายเหตุ : การแจกไพ่จะแจกทวนเข็มนาฬิกา

2.ตารางด้านล่างคือตัวกำหนดลำดับการแจกไพ่ เช่น ถ้าไพ่เสี่ยงทาย คือ 6 จะใช้ลำดับการแจกไพ่รูปแบบที่สอง( P1, P2, P3, Banker) หรือ ถ้าเป็น Q รูปแบบที่สี่จะเป็นตัวกำหนดลำดับในการแจกไพ่ในรอบนั้น(P3, Banker, P1, P2)

ชนิดไพ่

5 Gong(5 J、Q、K) > บูล บูล > บูล9 > บูล8 > บูล7 > บูล6 > บูล5 > บูล4 > บูล3 > บูล2 > บูล1 > ไม่บูล

1. ตารางด้านล่างคือตัวกำหนดลำดับการแจกไพ่ เช่น ถ้าไพ่เสี่ยงทาย คือ 6 จะใช้ลำดับการแจกไพ่รูปแบบที่สอง( P1, P2, P3, Banker) หรือ ถ้าเป็น Q รูปแบบที่สี่จะเป็นตัวกำหนดลำดับในการแจกไพ่ในรอบนั้น(P3, Banker, P1, P2)

ชนิดไพ่

5 Gong(5 J、Q、K) > บูล บูล > บูล9 > บูล8 > บูล7 > บูล6 > บูล5 > บูล4 > บูล3 > บูล2 > บูล1 > ไม่บูล

5 Gong (5 J, Q, K)		ไพ่ 5 ใบ ประกอบด้วย J, Q, K
บูลบูล		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 10 หรือ 20
บูล 9		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  9 หรือ 19
บูล 8		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  8 หรือ 18
บูล 7		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  7 หรือ 17
บูล 6		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  6 หรือ 16
บูล 5		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  5 หรือ 15
บูล 4		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  4 หรือ 14
บูล 3		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  3 หรือ 13
บูล 2		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  2 หรือ 12
บูล 1		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ  1  หรือ 11
ไม่บูล		ไพ่ 3 ใบ หารด้วยสิบไม่ลงตัว เช่น 10,9,4,8

ใหญ่/เล็ก

หากมีแต้มเสมอกันในเกม Playerทุกท่าน จะเลือกไพ่ที่แต้มใหญ่สุดจากใพ่ 5 ใบเพื่อหาผู้ชนะ หากแต้มไพ่และอันดับไพ่ยังคงเสมอกัน จะใช้รูปแบบไพ่ ตามตัวอย่างในตารางด้านล่าง

การจ่าย

คำอธิบาย

หากท่านต้องการเดิมพัน “เสมอ” และ “ดับเบิ้ล” ในรอบเดียวกัน ท่านต้องมียอดเงินคงเหลือมากกว่ายอดเงินที่ต้องการเดิมพัน 6 เท่า หากท่านแพ้ทั้งสองเดิมพัน ท่านจะต้องจ่าย5 เท่าของเดิมพันแบบ "เสมอ" และ 1 เท่า ของเดิมพัน "ดับเบิ้ล"

ตัวอย่างการวางเดิมพันและการคำนวนกำไร/ขาดทุน

สมาชิก A: "มีเครดิต 500" คุณสามารถวางเดิมพันได้สูงสุดบนดับเบิ้ล คือ 100 หรือสามารถวางเดิมพันสูงสุดที่เสมอได้ 500
สมาชิก B: "มีเครดิต 5,000" คุณสามารถวางเดิมพันได้สูงสุดบนดับเบิ้ล คือ 1,000 หรือสามารถวางเดิมพันสูงสุดที่เสมอได้ 5,000

1. “Table Bet limits” จำนวนเงินเดิมพันต่ำสุด-สูงสุดที่สามารถวางได้ในโต๊ะนั้น
2. ในกรณีที่มีการจ่ายออกผิดพลาด โต๊ะจะทำการคำนวณบิลใหม่อีกครั้ง และยึดผลตามวีดีโอที่ได้บันทึกไว้

บูลไฟท์ (Bull Fight)

วิธีการเล่น

ในการแข่งขัน จะประกอบด้วยไพ่ 2 สำรับ จากไพ่ 52 ใบ ที่ดีลเลอร์จะเลือกจากสำรับใดก็ได้ ดีลเลอร์จะเริ่มแจกไพ่ให้ผู้เล่นฝั่ง แบล็คบูล Black Bull และ เรดบูล Red Bull ฝั่งละ 5 ใบ โดยที่ฝั่งแบล็คบูลจะเป็นคนจั่วไพ่คนแรกเสมอ

ไพ่ที่จับออกนั้นจะนำมาเปรียบเทียบว่าผู้ใดที่จั่วได้ประเภทของไพ่ที่สูงกว่าจะชนะในเกมนั้น หาก เรดบูล และ แบล็คบูล ได้ประเภทไพ่เหมือนกัน จะนับเป็นผลเสมอ การเดิมพันใน เรดบูล และ แบล็คบูล จะถูกคืนเงิน

ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้ดังนี้

• Black Bull แบล็คบูล
• Red Bull เรดบูล
• เสมอ
• บูล 1, บูล 2, บูล 3, บูล 4, บูล 5, บูล 6, บูล 7, บูล 8, บูล 9
• บูล บูล
• ดับเบิ้ล บูล บูล
• Silver Bull ซิลเวอร์บูล / Gold Bull โกลด์บูล / Bomb ระเบิด / Five Calf ไฟฟ์ คาล์ฟ

หมายเหตุ : เมื่อผู้เล่นวางเดิมพัน ดับบิ้ล บูล บูล ทั้งเรดบูล และ แบล็คบูล จะต้องมีแร็งค์กิ้งที่เหมือนกัน จึงจะชนะเดิมพัน

ลำดับของแฮนด์แร็งค์กิ้ง

ไฟฟ์ คาล์ฟ > ระเบิด > โกลด์ บูล > ซิลเวอร์ บูล > บูล บูล > บูล 9 > บูล 8 > บูล 7 > บูล 6 > บูล 5 > บูล 4 > บูล 3 > บูล 2 > บูล 1 > ไม่บูล

ไฟฟ์ คาล์ฟ Five Calf		ไพ่ 5 ใบที่ประกอบไปด้วย A, 2, 3, 4 และผลรวมของไพ่ทั้งหมดน้อยกว่า หรือ เท่ากับ 10
ระเบิด Bomb		ไพ่ 4 ใบมีแต้มเท่ากัน
โกลด์บูล Gold Bull		ไพ่ทุกใบมีค่ามากกว่า 10 (ไม่รวมไพ่ที่มีแต้ม 10)
ซิลเวอร์บูล Silver Bull		ไพ่ทุกใบมีค่ามากกว่า 10 รวมถึงไพ่ที่มีแต้ม 10 ด้วย
บูล บูล Bull Bull		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 10 หรือ 20
บูล 9		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 9 หรือ 19
บูล 8		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 8 หรือ 18
บูล 7		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 7 หรือ 17
บูล 6		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 6 หรือ 16
บูล 5		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 5 หรือ 15
บูล 4		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 4 หรือ 14
บูล 3		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 3 หรือ 13
บูล 2		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 2 หรือ 12
บูล 1		ไพ่ 3 ใบ แต้มรวมหารด้วยสิบได้ลงตัว ไพ่2ใบ แต้มรวมเท่ากับ 1 หรือ 11
ไม่บูล		ไพ่ 3 ใบ หารด้วยสิบไม่ลงตัว

หมายเหตุ: ไพ่ เอส Aces มีค่าเท่ากับ (1) เท่านั้น

การจ่ายออก

หมายเหตุ:

1. เดิมพันต่ำสุด และ เดิมพันสูงสุดจะขึ้นอยู่กับโต๊ะเป็นผู้กำหนด ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันภายใต้จำนวนเดิมพันที่ทางโต๊ะกำหนดไว้ หรือ ที่ผู้เล่นกำหนดค่าจำกัดยอดเงินเดิมพันไว้เองได้เช่นกัน
   
   
2. เมื่อดีลเลอร์ทำการจับไพ่แล้ว ระบบจะทำการอ่านไพ่ ในกรณีที่ระบบไม่สามารถอ่านไพ่ได้ ดีลเลอร์จะทำการสแกนไพ่อีกครั้ง จนกว่าระบบจะอ่าน หากท้ายที่สุดแล้วระบบยังม่สามารถอ่านไพ่ได้ รอบการเดิมพันนั้นทั้งหมดจะถือเป็นโมฆะ และคืนเงินเดิมพัน
   
   
3. ในกรณีที่มีการจ่ายออกผิดพลาด จะมีการจ่ายออกใหม่อีกครั้งโดยยึดผลการเดิมพันของเกมปัจจุบัน
   
   
4. หากมีเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้ระบบล้มเหลว ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการเดิมพันจนจบเกมนั้นได้ รอบการเดิมพันนั้นทั้งหมดจะถือเป็นโมฆะ และคืนเงินเดิมพัน

เกมชนะด้วยไพ่สามใบ

วิธีการเล่น

เกมชนะด้วยไพ่สามใบเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศจีน ใช้การ์ดสำรับมาตรฐาน ทั้งหมด 52 ใบ การ์ดทั้งสามใบจะถูกจั่วให้ทั้งฝ่ายมังกรและนกฟีนิกซ์ในแต่ละรอบ ดีลเลอร์จะเปรียบเทียบอันดับของไพ่บนมือของฝ่ายมังกรและนกฟีนิกซ์

อันดับของไพ่บนมือที่สูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ หากอันดับของไพ่บนมือของฝ่ายมังกรและนกฟีนิกซ์เสมอกัน ดีลเลอร์จะเปรียบเทียบแต้มไพ่ที่สูงที่สุดของแต่ละฝ่าย หากอันดับของไพ่บนมือและแต้มไพ่ที่สูงที่สุดของฝ่ายมังกรและนกฟีนิกซ์เท่ากัน เกมนั้นจะเสมอ และทุนเดิมพันจะคืนแก่ผู้เล่นตามลำดับ

ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันในแต่ละประเภทได้ ดังนี้

• มังกร
• นกฟีนิกซ์
• คู่ 8 พลัส คือ อันดับไพ่บนมือสูงกว่าคู่ 8 อันประกอบด้วย คู่9 คู่เอซ สเตรท ฟลัช สเตรทฟลัช และตอง
• สเตรท
• ฟลัช
• สเตรทฟลัช
• ตอง

อันดับของไพ่

A > K > Q > J > 10 > 9 > 8 > 7 > 6 > 5 > 4 > 3 > 2

ดอกของการ์ดแต่ละใบไม่มีผลต่ออันดับของไพ่

อันดับของไพ่บนมือ

ตอง > สเตทฟลัช > ฟลัช > สเตรท > คู่ > ไพ่สูง

*235 > ตอง

*235	ไพ่สามใบของ 2, 3, 5 ของดอกทีแตกต่างกัน และหรือไพ่สองใบของ 2, 3, 5 ของดอกเดียวกัน และ อีกใบของดอกที่ต่างกัน
ตอง	ไพ่สามใบที่มีค่าเท่ากัน
สเตรทฟลัช	ไพ่สามใบที่เรียงลำดับและมีดอกเดียวกัน
ฟลัช	ไพ่สามใบที่มีดอกเดียวกันแต่ไม่เรียงลำดับ
สเตรท	ไพ่สามใบที่เรียงลำดับกัน แต่ไม่ใช่ดอกเดียวกัน
คู่	ไพ่สองใบที่มีค่าเท่ากัน
ไพ่สูง	หากไม่มีอะไรที่ว่ามา ให้นับไพ่ใบสูงที่สุด

* 2-3-5 จะนับเมื่อตองปรากฏแล้วเท่านั้น

หากทั้งมังกรและนกฟีนิกซ์มีอันดับไพ่เท่ากัน ดังรายละเอียดข้างต้น เช่น ตอง สเตรชฟลัช หรืออื่นๆ ไพ่ใบที่สูงที่สุดในมือจะเป็นไพ่ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ

ตัวอย่างเช่น หากมังกรได้ไพ่ 3-3-3 และ นกฟีนิกซ์ได้ไพ่ 9-9-9 รกฟีนิกซ์จะชนะในครั้งนี้

หากในเกมมี 235 และตอง 235จะมีอันดับไพ่ที่สูงกว่าตองเสมอ หากไม่มีตองในเกม 235 จะเป็นไพ่สูงที่เล็กที่สุด

หากมังกรและนกฟีนิกซ์มีไพ่คู่ทั้งสองฝ่าย ค่าของไพ่แต่ละคู่จะเป็นไพ่ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ หากค่าของไพ่คู่เท่ากัน ค่าของไพ่ที่สามจะเป็นไพ่ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ

ตัวอย่างเช่น หากมังกรได้ไพ่ A-7-7 และนกฟีนิกซ์ได้ไพ่ 3-7-7 มังกรจะเป็นผู้ชนะเพราะ เอซมีค่าสูงกว่า 3

เมื่อผู้เล่นเดิมพันที่ประเภทเดิมพันต่างๆ เช่น คู่ 8 พลัส สเตรท ฟลัช สเตรทฟลัช หรือตอง การเดิมพันจะชนะในกรณีที่ข้างที่เลือกเป็นฝ่ายที่ชนะในเกมนั้นๆ เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น หากมังกรได้ไพ่สเตรท แต่นกฟีนิกซ์ได้ไพ่ฟลัช การเดิมพันที่ประเภทสเตรทจะเสียเดิมพัน และการเดิมพันที่ฟลัชจะชนะเดิมพัน เพราะว่า ฟลัชชนะในเกมนี้

การจ่ายออก

หมายเหตุ

หากระบบไม่สามารถอ่านไพ่ได้ระหว่างเกม เกมดังกล่าวจะถูกยกเลิกและคืนทุนเดิมพันทั้งหมด

ในกรณีที่การคิดบิลเดิมพันไม่ถูกต้อง เกมจะถูกอ้างอิงผลแข่งขันตามที่วิดีโอแสดงผล

ในกรณีที่เครือข่ายล้มเหลว เพื่อให้เกมเสร็จสิ้น เกมนั้นๆจะถูกยกเลิกและคืนทุนเดิมพันทั้งหมด

เกม XOC DIA

Xoc Dia เป็นเกมที่นิยมเล่นกันอย่างกว้างขวางในเอเชีย โดยการเล่นแบบดั้งเดิมจะใช้เหรียญทั้งหมด 4 เหรียญ ซึ่งหน้าเหรียญแต่ละหน้าจะมีสีที่แตกต่างกัน เป้าหมายในการเล่นคือการทายผลของเหรียญสี่สี เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดความคลุมเครือของผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้เหรียญ ทางเราจึงเปลี่ยนมาใช้ลูกเต๋าแทน โดยลูกเต๋าแต่ละลูกจะมีหน้าสีขาวสามหน้าและหน้าสีแดงสามหน้า นอกเหนือจากการวางเดิมพันเพื่อลุ้นผลลัพธ์ของสีแล้ว เรายังมีตัวเลือกการเดิมพันอื่นๆ ได้แก่ คู่/คี่ ใหญ่/เล็ก สีแดงทั้งหมด และสีขาวทั้งหมด อีกด้วย

กติกาการเดิมพัน

• เมื่อเริ่มเกมในแต่ละรอบ จะแสดงเวลานับถอยหลังเพื่อส่งสัญญาณให้เริ่มการวางเดิมพันได้จนกว่าจะนับถอยหลังถึงศูนย์ และท่านสามารถเลือกมูลค่าของชิปที่จะใช้ในการวางเดิมของท่านได้
• เมื่อเวลานับถอยหลังจนถึงศูนย์ เจ้ามือจะเริ่มเกมโดยทำการทอยลูกเต๋าจากเครื่องอัตโนมัติ
• เมื่อลูกเต๋าหยุดหมุนแล้ว เจ้ามือจะแจ้งผลลัพธ์ตามจำนวนของสีแดงและสีขาวที่แสดงอยู่บนหน้าลูกเต๋า
• หากลูกเต๋าทั้งหมดไม่ได้หยุดโดยที่ด้านใดด้านหนึ่งแนบสนิทอยู่บนโต๊ะ ทางเราจะขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกเกมรวมถึงการวางเดิมพันบิลใด ๆ ก็ตามที่ในเกมก็จะถือเป็นโมฆะด้วยเช่นกัน และคืนเงินเดิมพัน

คำอธิบายเดิมพัน

ไทยไฮโล

เนื้อหา

ไทยไฮโลคือเกมลูกเต๋าสามลูก จะเล่นด้วยการใช้ลูกเต๋าธรรมดาจำนวนสามลูกที่มีค่าหน้าลูกเต๋าตั้งแต่ 1 ถึง 6 ผู้เล่นจะต้องทายผลของการทอยลูกเต๋า

กติกาการเดิมพัน

• เมื่อเริ่มเกมในแต่ละรอบ จะมีตัวนับเวลาถอยหลังแสดงขึ้นเพื่อให้เริ่มการวางเดิมพันได้จนกว่าจะนับถอยหลังถึงศูนย์ และท่านสามารถเลือกมูลค่าของชิปที่จะใช้ในการวางเดิมของท่านได้
• เมื่อตัวนับเวลานับถอยหลังจนถึงศูนย์ เจ้ามือจะเริ่มเกมและทอยลูกเต๋าจากเครื่องอัตโนมัติ
• เมื่อการเขย่าสิ้นสุดลง เจ้ามือจะแสดงผลลัพธ์ของยอดรวมที่แสดงบนลูกเต๋า
• หากลูกเต๋าทั้งหมดไม่ได้หยุดโดยที่ด้านใดด้านหนึ่งแนบสนิทอยู่บนโต๊ะ ทางเราจะขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกเกมรวมถึงการวางเดิมพันบิลใด ๆ ก็ตามที่ในเกมก็จะถือเป็นโมฆะด้วยเช่นกัน และคืนเงินเดิมพัน

คำอธิบายเดิมพัน

ไพ่รูปภาพ 3 ใบ

เกมไพ่รูปภาพ 3 ใบ จะใช้สำรับไพ่ 52 ใบโดยไม่มีโจ๊กเกอร์ วัตถุประสงค์ของเกมคือการเปรียบเทียบไพ่ในมือของแบงค์เกอร์ กับไพ่ในแต่ละมือของเพลย์เยอร์ทั้งสามและตัดสินว่าใครมีอันดับสูงกว่า มือที่มีไพ่รูปภาพมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ หากมือแบงค์เกอร์และเพลย์เยอร์มีจำนวนไพ่รูปภาพเท่ากัน มือที่มีแต้มมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ในกรณีที่จำนวนไพ่รูปภาพและแต้มเท่ากัน จะนับเป็นผลเสมอ เดิมพันนี้จะไม่นับดอกไพ่ เดิมพันที่วางบนมือที่มีอันดับสูงสุดจะชนะและจ่ายออกตามตารางด้านล่าง

• ในแต่ละรอบ จะมีการแจกไพ่ 3 ใบโดยคว่ำหน้าไพ่ โดยแจกไพ่เรียงลำดับจาก เพลย์เยอร์1 - เพลย์เยอร์2 - เพลย์เยอร์3 - แบงค์เกอร์ จากนั้นไพ่ที่คว่ำหน้าอยู่จะถูกวางลงในกล่องไพ่
• เพลย์เยอร์จะต้องวางเดิมพันให้เสร็จสิ้นก่อนที่ข้อความ 'หมดเวลาเดิมพัน' ปรากฎ
• เจ้ามือจะหงายไพ่หลังจากสัญญาณ 'หมดเวลาเดิมพัน' ปรากฎ และเปรียบเทียบอันดับมือของ เพลย์เยอร์ แต่ละคนกับมือของแบงค์เกอร์ เดิมพันที่มีอันดับสูงสุดจะชนะและจ่ายออกตามตาราง

กติกาการเล่น

• ตารางแสดงแต้มของหน้าไพ่ :

• แต้มของไพ่ทั้งหมดจะถือเป็นแต้มรวมของมือนั้นๆ โดยที่ 9 คือแต้มสูงสุด และ 0 คือแต้มต่ำสุด (ไม่รวมไพ่รูปภาพ)
• การจัดอันดับของมือจากมากไปน้อยจะถูกกำหนดไว้ในตารางอันดับไพ่ด้านล่าง
• หากเพลย์เยอร์มีอันดับที่สูงกว่าฝั่งแบงค์เกอร์ เพลย์เยอร์จะชนะการเดิมพันในเบื้องต้นนี้
• หากเพลย์เยอร์และแบงค์เกอร์มีอันดับมือเท่ากัน จะถือว่าเสมอกันในรอบดังกล่าว และการเดิมพันใด ๆ ที่วางบนเพลย์เยอร์หรือแบงค์เกอร์จะถูกยกเลิกและคืนเงิน

อันดับไพ่ (เรียงจากสูงไปต่ำ)

คำอธิบายเดิมพัน และการจ่ายออก

• การจ่ายออกจะขึ้นอยู่กับประเภทของการเดิมพันดังต่อไปนี้:

ตารางอันดับมือของเดิมพันลัคกี้สไตรค์

อันดับมือ	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
สเตรทฟลัช	ไพ่ 3 ใบเรียงลำดับกัน และมีดอกเดียวกัน
ตอง	ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
สเตรท	ไพ่ 3 ใบเรียงลำดับกัน
ฟลัช	ไพ่ 3 ใบที่มีดอกเดียวกัน
คู่ 9 หรือมากกว่า	ไพ่ 2 ใบที่มีแต้มเท่ากัน คู่ 9 หรือมากกว่า ประกอบด้วย คู่ 9 คู่ 10 คู่  J คู่ Q และ คู่ K

• โปรดทราบ หากเกิดความผิดปกติใด ๆในรอบเกมนั้น จะมีผลเป็นโมฆะและคืนเงินเดิมพัน
• จำนวนเงินเดิมพันขั้นต่ำและสูงสุดขึ้นอยู่กับการกำหนดของโต๊ะเดิมพันนั้นๆ ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้ภายในประเภทการเดิมพันของโต๊ะที่กำหนดไว้และเดิมพันภายใต้วงเงินที่ผู้เล่นได้จำกัดไว้ หากท่านต้องการปรับค่าวงเงิน โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
• เมื่อเจ้ามือแจกไพ่ ในกรณีที่ระบบไม่สามารถอ่านไพ่ได้ จะถือว่าการเดิมพันในรอบนั้นเป็นโมฆะและจะคืนเงินเดิมพันทั้งหมด
• ในกรณีที่เกิดการตัดสินเดิมพันผิดพลาด จะเดิมพันจะนำมาตัดสินใหม่โดยยึดตามผลเดิมพันของวิดีโอในรอบปัจจุบัน

แอนดาร์ บาฮาร์

แอนดาร์ บาฮาร์เป็นเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเอเชีย โดยจุดประสงค์ของเกมนี้คือเดาว่าฝั่งใด (แอนดาร์หรือบาร์ฮาร์) ที่จะได้รับไพ่เท่ากับฝั่งโจ๊กเกอร์ (เฮ้าส์)

กฏของเกม

ดีลเลอร์จะจั่วไพ่ฝั่งละ 1 ใบตามลำดับ ใบแรกจั่วให้ฝั่งแอนดาร์และใบที่สองจั่วให้ฝั่งบาร์ฮาร์ และหลังจากนั้นแต่ละฝั่งจะได้รับไพ่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับไพ่ที่หน้าไพ่มีค่า (ลำดับ) เดียวกับไพ่โจ๊กเกอร์

เมื่อฝั่งใดฝั่งหนึ่ง (แอนดาร์หรือบาร์ฮาร์) ได้รับไพ่ลำดับเดียวกับไพ่โจ๊กเกอร์ เกมในรอบนั้นๆจะจบลง หากเดิมพันใดๆ ครอบคลุมเดิมพันที่ชนะท่านจะได้รับยอดชนะตามประเภทของเดิมพันที่วาง

เมื่อเกมรอบใดๆจบลง ดีลเลอร์จะเก็บไพ่ที่เปิดอยู่ทั้งหมดบนโต๊ะและเก็บไพ่ที่ยังเหลืออยู่ในสำรับและวางในเครื่องสับไพ่ จากนั้นดีลเลอร์จะนำไพ่ที่สับแล้วนำมาเริ่มเกมรอบใหม่

อันดับของไพ่

เกมนี้เป็นเกมที่เล่นด้วยไพ่ 1 สำรับ 52 ใบ วัตถุประสงค์ของเกมคือทายว่าฝั่งใด (แอนดาร์หรือบาร์ฮาร์) ที่จะได้รับไพ่เท่ากับฝั่งโจ๊กเกอร์ (เฮ้าส์) (ตัวอย่าง ไพ่ของโจ๊กเกอร์คือไพ่คิง หลังจากนั้นทั้งสองฝั่งจะได้รับจั่วไพ่จนกระทั่งฝั่งแอนดาร์หรือบาร์ฮาร์จะจั่วได้ไพ่คิง จากนั้นเกมจะสิ้นสุดลง) ลำดับ (ค่า) และชุดไพ่ (สี) ของไพ่จะเกี่ยวข้องเมื่อเดิมพันข้างเคียงใน “3 ลำดับแรก”

เดิมพันหลัก

ในเกมแอนดาร์บาร์ฮาร์จะมีเดิมพันหลักที่แตกต่างกัน 2 อย่างซึ่งสามารถวางเดิมพันได้ตามความเป็นไปได้ในเกมแอนดาร์บาร์ฮาร์คือ แอนดาร์ชนะ (ไพ่ของแอนดาร์เท่ากับไพ่ของโจ๊กเกอร์) และบาร์ฮาร์ชนะ (ไพ่ของบาร์ฮาร์เท่ากับไพ่ของโจ๊กเกอร์) โอกาสจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสำหรับฝั่งที่ได้รับการจั่วไพ่ก่อน (สำหรับเกมนี้คือแอนดาร์) และการจ่ายออกจะเป็นไปตามนี้

เดิมพันข้างเคียง

ในเกมแอนดาร์บาร์ฮาร์จะมีเดิมพันข้างเคียง 2 ประเภท ประเภทแรกเป็นการเดิมพันข้างเคียงที่ขึ้นอยู่กับชุดไพ่ของไพ่ 3 ใบแรก ไพ่ของโจ๊กเกอร์และไพ่ใบแรกทั้งสองใบ (ใบแรกของแอนดาร์และใบที่สองของบาร์ฮาร์) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “3 ลำดับแรก” และการชนะของชุดไพ่เหล่านี้จะเหมือนกับโป๊กเกอร์ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

การเดิมพันข้างเคียงประเภทที่สองจะให้ผู้เล่นสามารถคาดเดาจำนวนไพ่ที่จะจั่วทั้งสองฝั่งจนกว่าจะได้รับไพ่ลำดับเดียวกันกับโจ๊กเกอร์ (เฮ้าส์) ที่ได้รับการจั่วก่อนหน้าตามตารางด้านล่างนี้

ตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นวางเดิมพันตัวเลือก 6 ถึง 10 และไพ่ที่มีลำดับเท่ากับโจ๊กเกอร์จั่วออกมาในไพ่ 6 ถึง 10 ลำดับแรก เดิมพันจะชนะและได้รับการจ่ายออกที่ 3.5:1
โปรดทราบ: เมื่อนับไพ่ที่จั่วออกมาทั้งหมด ไพ่ของโจ๊กเกอร์จะไม่ถูกนับรวมด้วย

เกมกำถั่ว

วัตถุประสงค์ของเกมกำถั่วคือการทำนายจำนวนลูกปัด(ในอดีตใช้เม็ดถั่ว) ที่จะเหลือในกองสุดท้าย เมื่อลูกปัดที่เลือกถูกนำออกและนำมาจัดเรียงเป็นสี่แถว

กติกาการเล่น

ในระหว่างการเดิมพัน จะสุ่มเลือกลูกปัดจำนวนหนึ่งออกจากกองโดยใช้ถ้วย - เฉพาะลูกปัดที่ถูกเลือกในถ้วยเท่านั้นที่เข้าร่วมในรอบเกมปัจจุบัน เมื่อหมดเวลาเดิมพัน ลูกปัดที่ถูกเลือกจากถ้วยจะถูกจัดเรียงบนโต๊ะเป็นสี่แถวโดยใช้ไม้พิเศษ ลูกปัดชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ (ระหว่าง 1 ถึง 4) จะถูกจัดวางเป็นแถวไว้ที่ตรงกลางของตารางและตัวเลขเหล่านั้นจะแสดงถึงผลการเดิมพัน

ประเภทเดิมพัน

ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้หลากหลายรประเภทบนโต๊ะกำถั่ว และการเดิมพันแต่ละประเภทจะมีอัตราการจ่ายเงินเฉพาะตัว ประเภทเดิมพันที่สามารถวางได้นั้นจะขึ้นอยู่กับมุมมองของเกมที่ท่านเลือก ประเภทการเดิมพันในมุมมองตั้งต้นมีดังนี้:

ประเภทการเดิมพันในมุมมองขั้นสูงมีดังนี้ :

โป๊กเกอร์ (Poker)

โป๊กเกอร์คือหนึ่งในเกมไพ่ยอดนิยมของโลกด้วยการผสมผสานลำดับขั้นตอนที่มีความท้าทาย ในเกมโป๊กเกอร์ท่านจะไม่เพียงแค่เล่นเกมไพ่เท่านั้นแต่ท่านจำเป็นต้องวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม เพื่อที่จะเรียกไพ่

โป๊กเกอร์สามารถเล่นได้ตั้งแต่สองคนขึ้นไปหรือมากกว่านั้น ด้วยรูปแบบเกมที่หลากหลายเกมโป๊กเกอร์มักจะมีพื้นฐานการเล่นที่เหมือนกัน โดยเริ่มเกมด้วยผู้เล่นแต่ละคนต้องนำเงินมาวางไว้สำหรับการเดิมพัน ในแต่ละรอบของการเล่นผู้เล่นจะได้รับไพ่จากสำรับไพ่มาตรฐาน 52 ใบ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ไพ่ที่ดีที่สุด

ไพ่โป๊กเกอร์

โดยทั่วไปแล้วเกมโป๊กเกอร์จะเล่นด้วยไพ่มาตรฐาน 52 ใบ เกมบางรูปแบบจะใช้หลายสำรับไพ่ หรือเพิ่มไพ่ที่เรียกว่าโจ๊กเกอร์

อันดับของไพ่ (จากสูงไปต่ำ) A -เอซ, K-คิง, Q-แหม่ม, J-แจ็ค, 10-10, 9-9, 8-8, 7-7, 6-6, 5-5, 4-4, 3-3, 2-2, A-เอซ (เอซจะเป็นสูงหรือต่ำก็ได้)

จะมีไพ่สี่ชุดในสำรับ คือ  ♥ - โพธิ์แดง  ♣ - ดอกจิก  ♦ - ข้าวหลามตัด  ♠ - โพธิ์ดำ

บางเกมจะมีไพ่สัญลักษณ์ตัวแทนที่สามารถใช้ร่วมกับไพ่ชุดใดก็ได้และจัดอันดับความต้องการให้แก่ผู้ที่ถือไพ่ใบนั้นในบางครั้งไพ่โจ๊กเกอร์จะถูกใช้เป็นไพ่สัญลักษณ์ตัวแทน และนอกจากนี้บางเกมก็จะระบุไว้ว่าไพ่ใดจะใช้เป็นไพ่สัญลักษณ์ตัวแทน (ไพ่สองแต้ม, ไพ่แจ็คตาเดียว อื่น ๆ )

การเล่นโป๊กเกอร์โดยทั่วไป

• วางเงิน - ผู้เล่นจะต้องวางเงินเดิมพันขั้นต่ำก่อนเพื่อที่จะเริ่มเกมได้
• ค่าต๋ง - จำนวนเงินเดิมพันที่วางบนโต๊ะก่อนที่จะทำการแจกไพ่โดยปกติแล้วจะมีสองค่าต๋ง ( จะถูกเรียกว่า สูง และ ต่ำ ) และ เพื่อให้แน่ใจว่าการวางเดิมพันจะถูกวางในมือผู้เล่นทุกคน ค่าต๋งจะถูกเวียนจากผู้เล่นสู่อีกผู้เล่นหนึ่งเมื่อขึ้นรอบใหม่
• Call (คอล) – เมื่อมีการวางจำนวนเงินเดิมพันใหม่ จะถูกเรียกว่า คอล โดยผู้เล่นเต็มใจที่เดิมพันยอดเท่ากับกับยอดเงินเดิมพันสูงสุดในรอบนั้น
• Check (เช็ค) - คือการขอ ผ่าน หากไม่มีการวางเดิมพันใหม่หรือผู้เล่นไม่ต้องการวางเดิมพันเพิ่ม อาจจะขอ ผ่าน หรือ เช็ค
• Raise (เล่น) – เพลย์เยอร์ต้องการเพิ่มเงินเดิมพันบนโต๊ะ หรือ เกทับ
• Fold – การหมอบหรือการทิ้งไพ่ ผู้เล่นเลือกที่จะทิ้งไพ่ที่ถืออยู่และถอนตัวออกจากรอบเกมปัจจุบัน

ชุดไพ่โป๊กเกอร์

ไพ่แต่ละใบจะเรียงอันดับจากมากไปหาน้อย : Ace (เอซจะเป็นสูงหรือต่ำก็ได้) King (คิง), Queen (แหม่ม), Jack (แจ๊ค), 10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3 and 2

เอซสามารถเป็นไพ่ที่มีค่าสูงสุดใน สเตรท ของ A, K, Q, J, 10 หรือไพ่ที่มีค่าต่ำสุดในสเตรทของ 5, 4, 3, 2, A

ความเป็นได้ของไพ่จากอัตราการจ่ายเงินสูงสุดไปต่ำสุดมีการกำหนดไว้ด้านล่าง

การรวมไพ่	คำอธิบายไพ่
	รอยัลฟลัช คือชุดไพ่ที่เรียงด้วย เอซ, คิง, แหม่ม, แจ็ค, 10 และไพ่ทั้งหมดต้องอยู่ในดอกเดียวกัน
	สเตรทฟลัช คือชุดไพ่ที่เรียงแต้มกัน 5 ใบตามอันดับและทั้งหมดต้องอยู่ในดอกเดียวกัน ตัวอย่างเช่น 9, 8, 7, 6 และ 5 โพธิ์แดง
	โฟร์การ์ด คือชุดไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 4 ใบ รวมกับไพ่ใบอื่นอีก 1 ใบ ตัวอย่างเช่น ได้ไพ่ 3 แต้ม 4 ใบ กับ คิง 1 ใบจะเป็น โฟร์การ์ด ชุดไพ่ 4 ใบเหมือนที่มีค่าสูงกว่าจะเอาชนะไพ่ที่มีค่าน้อยกว่า
	ฟูลเฮ้าส์ คือชุดไพ่ที่มี 1ตอง และ 1คู่ ตัวอย่างเช่น 3 คิง และ ไพ่สองใบออก 6 ระหว่าง ฟูลเฮ้าส์ ด้วยกัน มือที่มีไพ่ตองสูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ
	ฟลัช คือ ชุดไพ่ 5 ใบ ดอกสีเดียวกันโดยไม่สนใจแต้มของไพ่ ตัวอย่างเช่น ไพ่ 5 ใบคือดอกจิกทั้งหมด หากทั้งสองมือได้ ฟลัช เหมือนกัน ให้เทียบใบที่มีแต้มสูงสุดของแต่ละมือเพื่อตัดสินผู้ชนะ หากทั้งสองมือมีไพ่ใบที่สูงสุดเหมือนกัน ให้ตัดสินจากไพ่อันดับที่สอง และเทียบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบไพ่ที่มีแต้มไม่เหมือนกัน
	สเตรท คือ ชุดไพ่ 5ใบเรียงลำดับแต้ม ตัวอย่างเช่น 9, 8, 7, 6, และ 5 ที่มีดอกอย่างน้อยสองแบบ ในกรณีที่ได้ สเตรท 2 มือ ให้เทียบไพ่ที่มีแต้มสูงสุดของการเรียงกันแต่ละมือ สเตรท สองมือที่มีแต้มเดียวกันจะถือว่าเสมอกัน เนื่องจากเกมไม่นับดอกสำหรับ สเตรท
	ไพ่ตอง คือ ไพ่แต้มเหมือนกัน 3 ใบ รวมด้วยไพ่สองใบที่แต้มต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นมีไพ่ คิง สามใบอยู่ในมือ แบบนี้คือ ไพ่ตอง และไพ่ตองที่มีแต้มสูงกว่าจะชนะไพ่ตองที่มีแต้มน้อยกว่า ในกรณีที่มีไพ่ตองแต้มเท่ากัน จะเทียบคิกเกอร์ เพื่อตัดสินผู้ชนะ
	2 คู่ คือ ชุดไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 2 คู่แต่ลำดับไพ่แตกต่างกันรวมกับไพ่แต้มอื่นอีกหนึ่งใบ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีไพ่ เอช 2 ใบ และ ไพ่คิง 2 ใบ ในกรณีที่ได้สองคู่เหมือนกัน ให้เทียบคู่ที่มีแต้มสูงสุดก่อน มือที่มีคู่แต้มสูงสุดกว่าจะเป็นผู้ชนะ หากทั้งสองมือมีคู่ที่มีแต้มสูงสุดเหมือนกัน ให้เทียบคู่ที่สองที่มีแต้มสูงรองลงมา หากทั้งสองมือมีแต้มสูงเหมือนกันทั้งคู่ จะเทียบคิกเกอร์ เพื่อตัดสินผู้ชนะ
	1 คู่ คือ ชุดไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 1 คู่ (เช่น ไพ่ คิง 2 ใบ) รวมกับไพ่แต้มอื่นอีกสามใบที่ไม่เหมือนกัน ไพ่ 1 คู่ ถือเป็นไพ่ต่ำสุดในมือจะได้รับการจ่ายเงิน ไพ่คู่ที่มีแต้มสูงกว่าชนะไพ่คู่ที่มีแต้มน้อยกว่า  หากสองมือมีไพ่คู่ที่แต้มเดียวกัน จะเทียบคิกเกอร์ เพื่อตัดสินผู้ชนะ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย
	ไพ่สูง คือ ไพ่แต้มสูง หรือไพ่ที่ไม่สามารถจัดชุดได้ตามกฏของไพ่ที่กล่าวมา โดยพื้นฐานแล้วถ้าไม่สามารถจับคู่ใดๆได้ ให้ใช้ไพ่ใบที่มีแต้มสูงสุดของผู้เล่น.
Kicker	ถ้าชุดไพ่ในมือของเกมแสดงผลเหมือนกับไพ่ในมือของผู้เล่น ไพ่ที่เหลือถัดไป จะถูกเรียกว่า คิกเกอร์ ซึ่งใช้เทียบเพื่อตัดสินผู้ชนะ

โป๊กเกอร์เกม

คาสิโนสด VWIN มีเกมโป๊กเกอร์ที่หลากหลาย รวมทั้ง คาสิโนโฮลเด็ม , 2 แฮนด์ คาสิโนโฮลเด็ม, เอ็กตรีม แท็กซัส โฮลเด็ม, ทริปเปิ้ล การ์ด โป็กเกอร์, แคริบเบียนสตั๊ดโป๊กเกอร์, แท็กซัส โฮลเด็ม โบนัส โป็กเกอร์  และ ไซด์เบท ซิตี้

เกมโชว์

เพลิดเพลินกับเกมคาสิโนสดยอดนิยมที่ผสมผสานเข้ากับรูปแบบเกมโชว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและนำเสนอผ่านพรีเซ็นเตอร์มืออาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเพื่อมอบความบันเทิง ซึ่งเกมดังกล่าวมีคุณลักษณะของรายการเกมโชว์ที่จะนำประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาให้แก่ท่าน เหมือนกับว่าตัวท่านเองได้อยู่ในรายการทีวีเกมโปรดของท่าน

เกมโชว์เหล่านี้แตกต่างไปจากเกมดีลเลอร์สดแบบดั้งเดิมเล็กน้อย โดยมีคุณสมบัติพิเศษที่มีอัตราต่อรองคงที่และการจ่ายเงินที่กำหนดโดยโครงสร้างตัวเลขแบบสุ่ม

วัตถุประสงค์หลักของเกมเหล่านี้คือ การทำนายผลการชนะอย่างถูกต้องเหมือนกับเกมบนโต๊ะทั่วไป อย่างไรก็ตาม เกมเหล่านี้ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเกมโบนัสและตัวคูณเพิ่มเติม

ไพ่ 32 ใบ

เกมไพ่ 32 ใบเป็นเกมที่เล่นด้วยไพ่ 32 ใบเท่านั้นซึ่งใช้ไพ่ตั้งแต่ 6 ถึง 13 (ไพ่คิง) จุดประสงค์ของเกมคือทายว่ามือใดของเพลย์เยอร์จะมีแต้มที่สูงที่สุด เพลย์เยอร์ 8, เพลย์เยอร์ 9, เพลย์เยอร์ 10 หรือเพลย์เยอร์ 11

บนโต๊ะจะมีตำแหน่งวางเดิมพันเพลย์เยอร์ 4 ตำแหน่งที่ท่านสามารถวางเดิมพันได้ โดยแต่ละเพลย์เยอร์จะมีแต้มนำหน้าเริ่มต้นดังนี้

กฏการเดิมพัน

ในการเริ่มต้นเกมแต่ละรอบ ระหว่างสัญญาณ “วางเดิมพันของท่าน” นับถอยหลังท่านสามารถวางเดิมพันได้ว่าเพลย์เยอร์ใดจะชนะ หลังจากสัญญาณ “ปิดรับเดิมพัน” ดีลเลอร์จะจั่วไพ่ 1 ใบให้เพลย์เยอร์แต่ละคน แต้มของแต่ละเพลย์เยอร์จะเป็นผลรวมของแต้มนำหน้าเริ่มต้นและแต้มของไพ่ที่จั่วได้ ตัวอย่างเช่น หากเพลย์เยอร์ 8 จั่วได้ไพ่ “6” ดังนั้นผลรวมทั้งหมดจะเป็น 14

เมื่อแจกไพ่ให้เพลย์เยอร์ทั้ง 4 แล้ว เพลย์เยอร์ใดมีแต้มมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในรอบนั้นๆ หากมี 2 เพลย์เยอร์หรือมากกว่าได้แต้มเท่ากัน จะมีการจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบให้กับเพลย์เยอร์ที่เสมอเพื่อตัดสินผู้ชนะ และหากไพ่ที่ได้รับแต้มยังเสมออยู่ จะมีการจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบให้กับเพลย์เยอร์จนกว่าจะได้เพลย์เยอร์ที่แต้มสูงกว่าและสามารถตัดสินหาผู้ชนะได้

ผู้เล่นที่เดิมพันในฝั่งที่ชนะจะชนะเดิมพันนั้นซึ่งอ้างอิงจากตารางการจ่ายออกตามด้านล่างนี้
เกมที่เล่นด้วยไพ่ 32 ใบ จะถูกสับก่อนเริ่มเกมใหม่ทุกครั้ง

ประเภทของไพ่ในเกม: ♥-โพธิ์แดง ♣-ดอกจิก ♦-ข้าวหลามตัด ♠-โพธิ์ดำ

เดิมพันผลตัวเลข 

ลูกบอลทั้งหมดสี่สิบเก้าหมายเลขตั้งแต่หมายเลข 1 ถึง 49 จะถูกสุ่มโดยเครื่องสุ่มของล็อตเตอรี่ โดยจะสุ่มลูกบอลหกลูกออกมาทีละลูกโดยแสดงหมายเลขของลูกบอล จุดประสงค์ของเกมนี้คือทำนายตัวเลขหรือผลรวมของลูกบอลที่ถูกเลือก

ประเภทการเดิมพัน

เรานำเสนอการเดิมพัน 3 ประเภท คือ การเดิมพันตัวเลข, สีของบอล และผลรวมของลูกบอล การเดิมพันแต่ละประเภทจะประกอบไปด้วย 12 ตัวเลือกสำหรับการเดิมพันที่แตกต่างกัน โดยแสดงอยู่ภายใต้ชื่อหมวดหมู่ของการเดิมพัน

ท่านสามารถเดิมพันชุดตัวเลขต่างๆ ได้ 36 ชุด เช่น ผลรวมของลูกบอลที่สุ่มออกมา และ สีของลูกบอลที่สุ่มออกมา เมื่อผู้เล่นวางเดิมพันแล้ว ลูกบอลจำนวน 6 ลูกจะถูกสุ่มออกมาโดยดีลเลอร์มืออาชีพในสตูดิโอ Bet on Numbers ที่ล้ำสมัย

และจะมอบประสบการณ์การจับฉลากแบบสมจริงให้กับท่าน

ลัคกี้ 7 (Lucky7)

ในเกมลัคกี้ 7 เป้าหมายของเกม คือ การทายผลของไพ่ใบถัดไปว่าจะมีค่ามากกว่า หรือต่ำกว่า 7

กฏการเดิมพัน

ในการเริ่มต้นของเกม ท่านสามารถวางเดิมพันได้ในช่วงเวลาที่นับถอยหลังแสดงข้อความ 'วางเดิมพัน' หลังจากนั้นเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ โดยในการเดิมพันแต่ละรอบจะใช้ไพ่เพียง 1 ใบเท่านั้นต่อรอบการเดิมพัน เมื่อไพ่ถูกแจกและเปิดออกมาแสดงผลลัพธ์ การเดิมพันก็จะถือว่าสิ้นสุด

หากท่านวางเดิมพันในฝั่งที่ชนะจะได้รับยอดชนะตามอัตราการจ่ายออกของตารางด้านล่างนี้ เกมนี้จะเล่นด้วยไพ่แปดสำรับที่ถูกทำการสับไพ่และเรียงอยู่ในกล่องใส่ไพ่ เมื่อไพ่ใบจั่วออกมาจากสำรับแล้ว การสับไพ่รอบใหม่จะเริ่มขึ้น

ในกรณีที่ผลลัพธ์เป็นของไพ่ออก 7 การเดิมพันใดๆก็ตามที่เดิมพันมากกว่า 7 หรือน้อยกว่า 7 จะเสีย 50% จากยอดการวางเดิมพัน

การเดิมพันข้างเคียง

สำหรับการเดิมพันข้างเคียงนั้นท่านสามารถเลือกวางได้ตลอดรอบเกมการเดิมพัน (โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องวางการเดิมพันหลักก่อนก็สามารถเดิมพันข้างเคียงได้)

การเดิมพันข้างเคียง มีดังนี้

แดง หรือ ดำ – ให้ท่านเลือกทายผลการเดิมพันว่าผลของไพ่ในรอบนั้นจะออกสีแดงหรือดำ

คี่หรือคู่ – ให้ท่านเลือกทายผลการเดิมพันว่าผลของไพ่ในรอบนั้นจะออกคี่หรือคู่

Pick & Battle

ซีรีส์เกม Pick & Battle ประกอบด้วยเกม Free Pick San Gong, Fortune Koi และ Dragon Tiger Smash ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพันมือของตนเองหรือมือของเจ้ามือได้อย่างใดอย่างหนึ่ง

กฎการเดิมพัน

Free Pick San Gong

เกม Free Pick San Gong เป็นการเล่นด้วยไพ่หนึ่งสำรับซึ่งประกอบด้วยไพ่ 52 ใบ ผู้เล่นจะเลือกไพ่สามใบจากไพ่หกใบ โดยจะนับเป็นมือของผู้เล่น ส่วนไพ่อีกสามใบที่เหลือคือมือของเจ้ามือ มือที่มีอันดับสูงกว่าจะชนะ ถ้ามือทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน จะนับเป็นผลเสมอ

เกมนี้จะไม่อ้างอิงอันดับของดอกไพ่ ไพ่เอซมีค่า 1 แต้ม และไพ่ 2-10 มีค่าตามตัวเลขหน้าไพ่ ไพ่รูปคน (J, Q และ K) หรือที่เรียกว่า “Gong” มีค่าเท่ากับ 0 และถือว่ามีอันดับเท่ากัน ผลรวมของไพ่แต่ละใบจะถูกคำนวณโดยหารด้วย 10 จากนั้นจะนำมาเปรียบเทียบกัน มือที่มีแต้มมากกว่า และ ไพ่ "Gong " จะชนะ

การจัดอันดับ

San Gong > ดับเบิ้ล Gong 9 > ซิงเกิ้ล Gong 9 > ไม่มี Gong 9 > ดับเบิ้ล Gong 8 > … > ซิงเกิ้ล Gong 0 > ไม่มี Gong 0

ประเภทการเดิมพัน

ฟอร์จูน โคอิ

ฟอร์จูน โคอิ เป็นการเล่นด้วยไพ่หนึ่งสำรับซึ่งประกอบด้วยไพ่ 52 ใบ ผู้เล่นจะเลือกไพ่สองใบจากไพ่หกใบเป็นมือของผู้เล่น ไพ่อีกสองใบคือมือของเจ้ามือ และไพ่สองใบที่เหลือจะถูกยกเลิก มือที่มีอันดับสูงกว่าจะชนะ ถ้ามือทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน จะนับเป็นผลเสมอ

เกมนี้จะไม่อ้างอิงอันดับของดอกไพ่ ไพ่เอซมีค่า 1 แต้ม และไพ่ 2-10 มีค่าตามตัวเลขหน้าไพ่ ไพ่รูปคน (J, Q และ K) มีค่าเท่ากับ 0 ผลรวมของไพ่แต่ละใบจะถูกคำนวณโดยหารด้วย 10 จากนั้นจะนำมาเปรียบเทียบกัน มือที่มีแต้มมากกว่า ไพ่คู่ (เรียกอีกอย่างว่า “โคอิ”) จะอันดับสูงกว่าแต้มไพ่ หากมือทั้งสองมีไพ่คู่ มือที่มีอันดับไพ่คู่สูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ

การจัดอันดับ

ไพ่คู่ (โคอิ) K > ไพ่คู่ (โคอิ) Q > … > ไพ่คู่ (โคอิ) 1 > 9 แต้ม > 8 แต้ม > … > 0 แต้ม

ประเภทการเดิมพัน

มังกร พยัคฆ์ สแมช

มังกร พยัคฆ์ สแมช เป็นการเล่นด้วยไพ่หนึ่งสำรับซึ่งประกอบด้วยไพ่ 52 ใบ ผู้เล่นเลือกไพ่อย่างน้อยหนึ่งใบหรือสูงสุดห้าใบสำหรับมือของผู้เล่นและเลือกไพ่หนึ่งใบสำหรับมือของเจ้ามือ ไพ่ที่เหลือจะถูกยกเลิก มือที่มีแต้มสูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ ถ้ามือทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน จะนับเป็นผลเสมอ

เกมนี้จะไม่อ้างอิงอันดับของดอกไพ่ ไพ่เอซมีค่า 1 แต้ม และไพ่ 2-10 มีค่าตามตัวเลขหน้าไพ่ ไพ่รูปคน (J, Q และ K) มีค่าเท่ากับ 11, 12 และ 13

อันดับไพ่ : K > Q > J > … > 3 > 2 > A

ประเภทการเดิมพัน

เกมไพ่ทีนแพ็ตตี

ทีนแพ็ตตีเป็นเกมไพ่อินเดียที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเอเชียใต้ โดยจะจั่วไพ่ให้ทั้งเพลย์เยอร์และดีลเลอร์ซึ่งผู้ที่มีไพ่อันดับสูงกว่า 3 ใบจะเป็นฝ่ายชนะ อันดับของไพ่จะนับอ้างอิงตามกฏพื้นฐานของโป๊กเกอร์

ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันในตามประเภทของการเดิมพันดังนี้

ชนะโบนัส 3+3 (ใช้ไพ่ 5 ใบเพื่อสร้างชุดไพ่ขึ้น)

ชุดไพ่ในมือ	คำอธิบาย
	รอยัลฟลัชคือเสตรทฟลัชที่รวมไพ่เอซ คิง ควีน แจ็ค และ 10 ในชุดเดียวกัน
	เสตรทฟลัชเป็นไพ่ชุด 5 ใบเรียงตามลำดับและอยู่ในชุดเดียวกันโดยไม่มีไพ่เอซ
	ตอง 4 เป็นชุดไพ่ที่ใบทั้ง 4 ใบอยู่อันดับเดียวกันหมดทั้ง 4 ใบและไพ่ใดๆ อีก 1 ใบ เช่น ไพ่ 3 ตอง 4 และคิง
	ฟูลเฮาส์เป็นไพ่ที่รวมไพ่ตองอันดับเดียวกันและไพ่คู่ 2 โดยคนละอันดับกัน เช่น ตองคิงและคู่ 6
	ฟลัชเป็นไพ่ 5 ใบที่อยู่ในชุดเดียวกันแต่ไม่เรียงตามลำดับกัน เช่น ใบ 5 ใบที่ทั้งหมดทุกใบเป็นดอกจิก
	ฟลัชเป็นไพ่ที่ทั้ง 5 ใบเรียงตามลำดับกันโดยชุดไพ่ที่ต่างกันอย่างน้อย 2 ชุด เช่น 9 8 7 6 5 ซึ่งชุดไพ่ต่างกันมากกว่า 2 ชุดขึ้นไป
	ไพ่ตองเป็นไพ่ในมือที่อยู่ในชุดเดียวกัน 3 ใบและไพ่ 2 ใบอื่นๆที่อันดับไม่เท่ากัน

อันดับของไพ่

อันดับของไพ่จะจัดอันดับลงมาจากไพ่เอซ ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดจากนั้นจะเป็นไพ่หน้า (คิง, ควีน, แจ็ค) และอันดับเรียงจาก 10 ลงมายัง 2

อันดับของไพ่	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
รอยัลฟลัช	เอซ, คิง และควีนที่อยู่ในชุดเดียวกัน
เสตรทฟลัช	ไพ่สามใบเรียงตามลำดับที่อยู่ในชุดเดียวกัน
ตอง	ไพ่ 3 ใบที่อยู่ในลำดับเดียวกัน
เสตรท	ไพ่ 3 ใบที่เรียงตามลำดับกันแต่คนละชุด
ฟลัช	ไพ่ 3 ใบที่อยู่ในชุดเดียวกันแต่ไม่เรียงลำดับกัน
คู่	ใบสองใบที่ลำดับเท่ากัน
ไพ่สูง	เปรียบเทียบไพ่ลำดับที่สูงที่สุด โดยหากไพ่สูงสุดแต้มเท่ากันจะเปรียบเทียบลำดับไพ่สูงลำดับต่อมาต่อไปเรื่อยๆ